Toolbar

2023

5 items

ตาประกอบและก้านตา 2 คู่ รยางค์ปาก 5 คู่ และรยางค์ขา 5 คู่ ลำตัวปกคลุมด้วยกระดองด้านบน และมีแผ่นท้องหรือ "จับปิ้ง" ปกคลุมด้านล่าง เป็นอวัยวะของเอ็มบริโอช่วงสุดท้ายในสัตว์กลุ่มปู เรียกว่าระยะ megalopa กว่า 80% ของสัตว์กลุ่มปูอาศัยอยู่ในทะเล และมีเอ็มบริโอระยะ zoea และ megalopa อยู่นอกไข่ หากินและล่องลอยในทะเล เป็นแพลงก์ตอนสัตว์ แต่ไม่ใช่สำหรับปูนาหรือปูน้ำจืดที่พบมากในประเทศไทย ซึ่งอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำมากบ้าง น้อยบ้าง ไม่มีความแน่นอน ไม่เหมาะต่อการดำรงชีวิตของเอ็มบริโอในรูปแบบแพลงก์ตอนสัตว์ การเจริญในระยะเอ็มบริโอของปูนาจึงถูกธรรมชาติคัดสรรให้เจริญอยู่ภายในไข่ปู เรียกว่า egg-zoea และ egg-megalopa จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษในการถ่ายภาพลักษณะเอ็มบริโอภายในไข่ปูที่มีขนาดเล็กเพียง 1 มม.

ภาพถ่ายมิญชวิทยาของผิวหนังของหิ้งห้อย Sclerotia aquatilis จากบริเวณลำตัว แสดงถึงความสวยงามและมุมมองศิลปะทางเนื้อเยื่อ ผ่านการขับเคลื่อนด้วยธรรมชาติและพื้นที่อาศัยของหิ้งห้อยจากการพิจารณาแนวตัดตามยาว พบว่าสามารถจำแนกผิวหนังประกอบด้วยชั้น exocuticle หนาและเด่นชัด พร้อมทั้งมีโครงสร้างเด่นคล้ายหกเหลี่ยมและสังเกตเห็นตรงกลางภาพ มีการจัดเรียงคล้ายดอกไม้ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ถัดมาเป็น endocutile ที่มีต่อมผิวหนัง (dermal gland) ขนานกับชั้น exocuticle มีลักษณะรูปร่างกลม และมีเซลล์ติดสีม่วงเรียงต่อกัน เชื่อว่ามีหน้าที่สร้างคิวติเคิลรองรับการทำงานของระบบผิวหนังของหิ้งห้อย

ในป่าช่วงเช้าที่มีความชื้นค่อนข้างสูง เราอาจจะพบใยของแมงมุมนั้นมีหยาดน้ำค้างใส ๆ เกาะอยู่เป็นจำนวนมาก แต่แม้ว่าจะมีหยาดน้ำค้างเกาะอยู่บนใยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของมันเท่าไหร่นัก เพราะสัญชาตญาณตามธรรมชาติของแมงมุมนั้นย่อมรู้ดีว่า เส้นใยที่สร้างขึ้นนั้นมีส่วนที่เป็นโครงสร้างเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวอยู่บริเวณใด จึงทำให้ แมงมุมไม่เดินไปติดใยเหนียว ๆ ของตัวมันเอง ในขณะเดียวกันนั้นหยาดน้ำค้างที่อยู่บนใยของพวกมัน เมื่อกระทบเข้ากับแสงจะทำให้เกิดการสะท้อน ส่งผลให้แมลงขนาดเล็กที่อาจมีความไวต่อแสงสีถูกล่อให้เข้ามาติดกับดักของมันและถูกจับกินเป็นอาหารได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงที่แมงมุมนั้นได้รับประโยชน์จากธรรมชาติอย่างแท้จริง

จุ้งแห้ง หรือกุ้งแห้ง อาหารที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เป็นส่วนประกอบในอาหารหลากหลายชนิด เช่น ส้มตำไทย น้ำปลาหวาน เป็นต้น ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่า ในกุ้งแห้งที่เรารับประทานนั้นมีธาตุใดอยู่บ้าง จะมีโลหะหนักอย่างที่เคยเห็นในข่าวหรือไม่? คำตอบมีอยู่ที่นี่แล้ว ด้วยการใช้เทคนิคการเรืองรังสีเอกซ์ (XRF) ทำให้เราเห็นถึงการสะสมและกระจายตัวของธาตุต่างๆ ในกุ้งแห้ง ทุกคนมาช่วยกันสังเกตสิ ว่ากุ้งนี้ปลอดภัยหรือไม่?

หยดน้ำอยู่บนกระดาษได้ด้วยพันธะไฮโดรเจน หรือเรียกว่าแรงตึงผิวของน้ำ มีรูปร่างทรงกลมคล้ายเลนส์นูน ในภาพทดลองหยดน้ำลงบนกระดาษ วาดรูปแล้วหยดสีต่าง ๆ ลงไป กลายเป็นหยดน้ำหลากสีสวยงาม เมื่อรอให้น้ำระเหยแห้งเกิดภาพวงกลมต่างสีสวยงามตามมา

2022

19 items

บันไดเลื่อน เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เราเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ในห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงานอาคารสูง หรือรถไฟฟ้า-ใต้ดิน ซึ่งหัวใจการทำงานของบันไดเลื่อน คือ มอเตอร์ไฟฟ้าที่หมุนขับเคลื่อนเฟืองเกียร์พร้อมโซ่ ทำให้บันไดที่ถูกออกแบบเป็นขั้น ๆ เลื่อนเคลื่อนที่ลำเลียงผู้คนไปยังชั้นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

แสงสว่างสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนเรามาตลอด ในอดีตมีการใช้แสงสว่างจากเปลวไฟ และแสงอาทิตย์ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนามาเป็นหลอดไฟฟ้า หลอดไส้ หรือ หลอดอินแคนเดสเซนต์เป็นหลอดพื้นฐานที่ซื้อหาสะดวก ราคาไม่แพง มีความเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา ทำให้เกิดความเพี้ยนของสีวัตถุที่กระทบกับแสงประเภทนี้น้อย หลักการทำงาน คือ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไส้หลอดที่มีลักษณะเป็นขดลวด จะทำให้เกิดความร้อนจนไส้หลอดแดง และเปล่งแสงสว่างออกมา ถึงแม้ว่าจะให้แสงสว่างได้ดี แต่ก็ยังคงให้แสงน้อยกว่าหลอดไฟประเภทอื่น อีกทั้งยังให้ความร้อนสูง ส่งผลทำให้อายุการใช้งานสั้น อาจทำให้ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยครั้งกว่าการใช้หลอดประเภทอื่น

อาทิตย์ทรงกลด เป็นปรากฏการณ์ทางแสงเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศโทรโมสเฟียร์ เรียกว่า ฮาโล (Halo) มีลักษณะเป็นวงกลมสีรุ้ง เกิดจากผลึกน้ำแข็งภายในเมฆเซอร์โรสเตรตัส (Cirrostratus) เป็นเมฆชั้นสูงแผ่นบางๆ อยู่ทั่วท้องฟ้า โดยผลึกน้ำแข็งทำหน้าที่เสมือนแท่งแก้วปริซึม หักเหลำแสงจากดวงอาทิตย์เป็นมุม 22 องศา เข้าสู่แนวสายตาของผู้สังเกตการณ์ที่อยู่บนพื้นโลก ทำให้ปรากฏเป็นแถบสีสเปกตรัมของเส้นรอบวงล้อมรอบดวงอาทิตย์

เป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าส่วนหนึ่งที่ปล่อยออกจากดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงในช่วงอินฟราเรด แสงที่ตามองเห็น และอัลตราไวโอเล็ต บนโลก แสงอาทิตย์ถูกกรองผ่านชั้นบรรยากาศโลก และเห็นชัดเป็นแสงกลางวันเมื่อดวงอาทิตย์อยู่เหนือเส้นขอบฟ้า แสงอาทิตย์มีสีขาว เกิดจากแสงทั้ง 7 สีมารวมกัน โดยแสงอาทิตย์จะมีความยาวคลื่นประมาณ 400-700nm แสงที่ความยาวคลื่นต่ำสุดคือสีม่วง สีน้ำเงิน จนมาถึงสีแดง ที่มีความยาวคลื่นประมาณ 700nm เมื่อรังสีจากดวงอาทิตย์โดยตรงไม่ถูกเมฆกั้น แสงอาทิตย์จะเป็นแสงจ้าและรังสีความร้อนประกอบกัน เมื่อรังสีจากดวงอาทิตย์โดยตรงถูกเมฆกั้นหรือสะท้อนออกไป โดยวัตถุอื่นจะเห็นไปแสงพร่ากระจาย เมื่อรังสีจากดวงอาทิตย์โดยตรงไม่ถูกเมฆกั้น แสงอาทิตย์จะเป็นแสงจ้าและรังสีความร้อนประกอบกัน เมื่อรังสีจากดวงอาทิตย์โดยตรงถูกเมฆกั้นหรือสะท้อนออกไปโดยวัตถุอื่น จะเห็นไปแสงพร่ากระจาย

ใยแมงมุมมีขนาด 2-3 เท่าของความยาวคลื่นของแสงในช่วงที่เรามองเห็นได้ ขนาดพอเหมาะต่อการเกิดการแทรกสอด แสงที่ตกกระทบใยแมงมุมเกิดกระเจิดกระเจิงในทุกทิศทาง คลื่นแสงบางความยาวคลื่นเคลื่อนที่ทะลุผ่านใยไปได้อย่างช้าๆ ในขณะที่บางความยาวคลื่นเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างระหว่างใย บางความยาวคลื่นถูกสะท้อนไปมา ท้องคลื่นและสันคลื่นของแต่ละความยาวคลื่นจึงเกิดการแทรกเสริมหรือหักล้างกันอย่างพัลวัน บางความยาวคลื่นเข้มขึ้นในบางจุดเพราะการแทรกเสริม บางความยาวคลื่นจางลงเพราะหักล้างกันเอง และสีของแสงขึ้นอยู่กับความยาวคลื่นของมัน แสงแดดที่เรามองเห็นผ่านใยแมงมุมในตอนนี้ จึงไม่ได้ขาวอีกต่อไป แต่กลับเต็มไปด้วยสีสันมากมาย ตามความเข้มของยาวคลื่นผลลัพธ์เป็นความสวยงามตามธรรมชาติ ที่มีให้พบเห็นได้ทั่วไป หากคุณเปิดใจมอง

วงเวียนใหญ่คือหนึ่งในสถานที่ที่มีความสวยงามและเป็นจุด landmark สำคัญใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งมีทั้งความสวยงาม ความทันสมัย สิ่งปลูกสร้าง การสื่อสารสำหรับการใช้ชีวิตของคนเมือง อื่นๆมากมายซึ่ง ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุก ๆ อย่างก็เกิดจากวิทยาศาสตร์

รุ้งกินน้ำเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พบเห็นได้ในช่วงหลังฝนตกและมีแดดออก โดยเกิดจากหลัก การหักเห และสะท้อนกลับหมดของแสง รุ้งกินน้ำเกิดขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ หรือแสงขาวตกกระทบเข้าไปในละอองน้ำที่ล่องลอยอยู่ในอากาศหลังฝนตกจะเกิดการหักเห และการสะท้อนลับหมดของแสงออกมา ทำให้แสงสีทั้ง 7 สีของแสงขาวกระจายออกจากกัน โดยมีสีเรียงจากล่างขึ้นบน คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง แต่ในบางครั้งเราก็สามารถเห็นรุ้งกินน้ำ 2 ตัวได้ในเวลาพร้อมกัน

แรงตึงผิวของของเหลว คือ แรงที่เกิดขึ้นที่ผิวของของเหลวที่เมื่อสัมผัสกับของเหลวอื่นๆหรือของแข็ง มีลักษณะคล้ายแผ่นบางๆ ที่สามารถพยุงวัตถุที่ควรจะจมน้ำ ให้สามารถลอยขึ้นอยู่บนผิวน้ำโดยไม่จมลงไปได้ เช่น เส้นลวดโลหะที่มีน้ำหนักซึ่งควรจะจมน้ำแต่กลับสามารถลอยบนผิวน้ำได้โดยอาศัยแรงตึงผิว

ทางช้างเผือก (Milky Way) กลุ่มแสงสว่างสีขาว ราวกลับก้อมเมฆในยามค่ำคืน เกิดจากดาวฤกษ์จำนวนมากที่มีรูปร่างเป็นแผ่นจาน สามารถมองเห็นในคืนเดือนมืด ในทิศ 30 องศา ลอยกว้างข้ามบนท้องฟ้า คนไทยโบราณ มีความเชื่อว่าว่ากษัตริย์เป็นเทวดามาจากสวรรค์ ช้างเผือกเป็นสัตว์คู่บุญบารมี ดังนั้นทางช้างเผือกทางเชื่อมต่อลงมาจากสวรรค์ ภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายที่ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น โดยในภาพมีพระพุทธรูปปางลีลาเป็นประธาน โดยองค์พระทำมุมตรงกับแนวของทางช้างเผือกจะเป็นความจงใจของผู้ออกแบบหรือไม่ไม่สามารถบอกได้ แต่ความเชื่อของชาวพุทธในเรื่องตำนานพระพุทธรูปลีลาที่ว่า เป็นการจำรองเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ โดยผ่านสะพานที่ทำจากเงินทองและแก้ว

ในขณะที่ตะไลล้านกำลังปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างรุนแรง เกรี้ยวกราด บรรดาสตาฟและผู้อยู่เบื้องหลัง ต่างก็ปลดปล่อยความกดดัน และความสุขออกมา เมื่อภาระกิจของพวกเขาสำเร็จไปอีกขึ้น นั่นคือการที่บั้งไฟล้านของพวกเขาทะยานขึ้นอยู่ท้องฟ้าได้เป็นผลสำเร็จ การจุดระเบิด การเผาไหม้ แรงดึงดูดของโลก แรงเสียดทานกับอากาศ ทั้งหมดนี้คือการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ผมาผสานเข้าด้วยกันจนเกิดสิ่งประดิษฐ์และกลายเป็นนวัตกรรมที่เรียกว่า "ตะไลล้านกุดหว้า"

มดแดงชอบสร้างรังออกไข่บนต้นมะม่วง เพราะมีใบเขี้ยวร่มครึ้มตลอดปี และมักทำรังออกไข่ใกล้แหล่งน้ำเพื่อใช้น้ำมาสร้างกรดน้ำส้มในการดำรงชีวิต มดงานสร้างรังโดยนำตัวอ่อนที่นางพญาออกไข่ อาศัยใยพิเศษที่สร้างมาจากกรดน้ำส้มมายึดโยงให้ใบไม้ติดกัน ในใบไม้จะมีแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตปะปนอยู่ เมื่อใยแห้งจะมีสีขาวเหนียวคล้ายสำลี ที่น่าทึ่งมากคือการที่มดแดงช่วยกันดึงใบ้ไม้เข้าหากันอย่างแข็งขัน ด้วยปากและกำลังขาที่แข็งแรง ในขณะที่มดงานตัวอื่นช่วยกันใช้ใยพิเศษจากตัวอ่อนเชื่อมประสานใบไม้ให้ยึดติดกันอย่างขะมักเขม้น..

หยาดน้ำค้าง (Drosera peltata Thunb) วงศ์ Droseraceae หนึ่งในพืชกินแมลงที่พบในประเทศไทย มีความงดงามแปลกตา บริเวณใบจะมีขนเล็ก ๆ ส่วนปลายมีหยดน้ำเหนียวใสประกายระยิบระยับ ทำไมพืชถึงกินแมลง นั่นก็เพราะว่าพืชในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มักจะขึ้นอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่แร่ธาตุสารอาหารค่อนข้างน้อย ดินขาดความอุดมสมบูรณ์โดยสารอาหารที่พืชต้องการโดยหลัก ๆ ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน ที่เป็นธาตุที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งแมลง ก็มีธาตุอาหารนี้อยู่ภายในตัว พืชเหล่านี้จึงพัฒนาใบ ที่มีความสามารถในการดักจับแมลง เพื่อดักจับและดูดซับธาตุอาหารในตัวแมลงนั่นเอง

ภาพถ่ายอิเล็กตรอนของใบกัญชาสายพันธุ์หางกระรอก โดยที่จะสังเกตเห็นลักษณะเด่นสองอย่าง 1. tall needle (ส่วนหนาม ๆ) เป็น physical defense ของใบไม้จากแมลง ที่ซึ่งเป็นแหล่งที่ผลิต CBD (Cannabidiol) 2. glandular trichome (สีชมพู) เป็น chemical defense ที่แหล่งของ THC (Tetrahydrocannabinol) ที่สูงเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าสายพันธ์ุไหนเจอก้อนกลม ๆ เยอะ จะสามารถผลิต THC ออกมาได้เยอะ ซึ่งจะกระจายตัวไปทั่วส่วนต่างๆของต้นกัญชา ซึ่งเราจะใช้ศึกษาลักษณะกายภาพของใบกัญชาในสายแต่สายพันธุ์ว่ามีลักษณะส่วนประกอบอย่างไร จุดไหนที่น่าสนใจ เพื่อใช้ในการสกัดสารสำคัญออกมา

ภาพถ่ายของ glomerulus ของหนูทดลองที่เป็นโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง (Autoimmune Diseases) ที่ผ่านการย้อมด้วยสีเรืองแสง ชนิดแอนติบอดี ที่สามารถบอกถึงความแตกต่างกันของเซลล์หรือโปรตีนที่ต้องการย้อมจากสีที่แตกต่างกัน เผยให้เห็นตำแหน่งของความสำคัญ ที่สามารถบ่งบอกถึงความเป็นโรคของหนูทดลองได้โดยภาพนี้สีเขียวเป็นตัวแทนของ IgG ที่ไปสะสมใน glomerulus ทำให้เกิดความเสียหายที่ glomerulus ซึ่งเป็นอาการแสดงอย่างหนึ่งในโรคที่เกี่ยวข้องกับ Autoimmune Diseases แต่ความสวยงามของสีเขียวที่เกิดขึ้นนั้น กลับมีความคล้ายกับพระจันทร์ครึ่งเสี่ยวซึ่งบังเอิญคล้องจองกับคำว่า Moon ของ Autoimmune Diseases จึงเป็นที่มาของชื่อภาพนี้ที่ชื่อ AUTOIM-MOON

กังหันน้ำที่ปรากฏในภาพคือวัสดุประเภท 2 มิติ (Two-dimensional material) ชื่อว่าแมกซีน (MXene) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่าง เช่น สามารถใช้เป็นวัสดุกักเก็บประจุไฟฟ้าและเป็นตัวนำไฟฟ้าในขั้วแบตเตอร์รี่ นอกเหนือไปจากนั้น แมกซีนยังสามารถใช้ในการทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์ โดยกระบวนการ capacitive water desalination โดยปกติแล้วกระบวนการสังเคราะห์แมกซีนจะได้ผลลัพธ์เป็นแผ่นวัสดุ ที่มีขนาดของพื้นที่ผิวกว้างกว่าความหนาเกิน 1000 เท่าซึ่งก็คือส่วนที่เป็นผืนน้ำสีฟ้าที่ปรากฏในภาพ ส่วนตัวกังหันน้ำ เกิดจากการการที่วัสดุแมกซีนเกิดการ exfoliate ที่ไม่สมบูรณ์ ทำเกิดเป็น multilayer particle ที่มีด้านที่กว้างที่สุดของกังหันมีขนาดประมาณ 10 ไมโครเมตร หรือเล็กกว่าขนาดของเส้นผมมนุษย์โดยเฉลี่ยประมาณ 10 เท่า

ดอกตูมของต้นบานค่ำ (Rivea ornata) ถูกตัดตามขวาง ย้อมด้วยสีสูตรเฉพาะ ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงที่กำลังขยาย 40 เท่า เผยให้เห็นโครงสร้างและการเรียงตัวของอวัยวะต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของดอก โดยสามัญแล้วดอกไม้จะประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ชั้น ได้แก่วงกลีบเลี้ยง วงกลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มักวาดภาพชั้นทั้ง 4 ของดอก ซึ่งเรียกว่า ผังโครงสร้างดอก (floral diagram) เพื่อศึกษาและแสดงความจำเพาะของโครงสร้างดอกของพืชแต่ละชนิดที่อาจมีความเหมือนหรือแตกต่างกันออกไปซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในทางอนุกรมวิธานพืช โดยภาพนี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของผังโครงสร้างดอก ที่สร้างจากตัวอย่างพืชจริง ไม่ใช่แค่เพียงรูปวาด

โครงสร้างภายในลำต้นของพืชตามภาพตัดขวางจะมีการเรียงตัวจากด้านนอกไปยังด้านในสุดดังนี้ เอพอเดอร์มิส คอร์เทกซ์ สตีลและพิธ ภายในสตีล จะประกอบด้วยมัดท่อลำเลียงอยู่เป็นกลุ่มๆด้านในคือไซเลม เป็นท่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุ ด้านนอกคือโพลเอ็ม เป็นท่อลำเลียงอาหาร โดยเรียงตัวในแนวรัศมีเดียวกันมี วาสคิวลาร์ เรย์ ขั้นอยู่ระหว่างมัดท่อลำเลียงเชื่อมต่อกับคอร์เทกซ์ และ พิธ ซึ่งจะอยู่ด้านในสุด

มดแดงมีชื่อสามัญว่า The Weaver Ant ลักษณะเด่นคือ ไม่มีเหล็กใน แต่ป้องกันตัวโดยใช้สารที่ชื่อว่า กรดมด หรือ Formic Acid ที่อยู่ในส่วนท้อง (Gaster) และปล่อยออกมาทางช่องเปิดเล็กๆ ที่ปลายส่วนท้อง มีกลิ่นฉุนใช้ขับไล่ศัตรู หรือฉีดใส่บาดแผลของศัตรู ทำให้เกิดอาหารระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อน จอห์น เรย เป็นนักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่สกัดกรดฟอร์มิกโดยกลั่นจากมดจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันได้นำกรดฟอร์มิกมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย ในวงการอุตสาหกรรม เช่น การฟอกหนัง การผลิตกาวลาเท็กซ์ และเป็นสารกำจัดเชื้อโรคในอาหาร

Uca annulipes เป็นปูก้ามดาบชนิดหนึ่งจากหลาย ๆ ชนิด ที่สามารถพบเห็นได้ในบริเวณป่าชายเลนหรือป่าโกงกาง และหาอาหารตอนน้ำลงในตอนเย็น ปูก้ามดาบชนิดนี้มีสีสันสวยงามสะดุดตา แต่ปูก้ามดาบเพศผู้และเพศเมียมีขนาดและรูปลักษณ์ต่างกัน ปูก้ามดาบเพศผู้มีเสน่ห์เพราะมีก้ามข้างหนึ่งใหญ่กว่าอีกข้าง ส่วนปูก้ามดาบเพศเมียจะมีก้ามขนาดเล็กสองข้าง ปูก้ามดาบเพศผู้ขนาดใหญ่ใช้เวลาขุดโพรงนานที่สุดเมื่อเทียบกับปูก้ามดาบเพศเมียและปูก้ามดาบตัวเล็ก

โครงการประกวดภาพถ่ายวิทยาศาสตร์ "วิทย์ติดเลนส์"

อพวช. ขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันสื่อสารวิทยาศาสตร์ ด้วยการมองสิ่งรอบตัวเป็นวิทยาศาสตร์ แล้วถ่ายภาพมาร่วมสนุกกันตาม
หัวข้อที่ทางเราตั้งเอาไว้เหมือนเป็นการแชร์ประสบการณ์ในการพบเห็นเรื่องราววิทยาศาสตร์รอบตัวแล้วมาเล่าสู่กันฟังผ่านภาพถ่าย

วิธีการส่งภาพ

ขั้นตอนการส่งภาพประกวด

1. เข้าไปที่เมนู "หัวข้อการประกวดและส่งภาพเข้าประกวด"
2. เลือกประเภท/รุ่น/หัวข้อการประกวด
3. อ่านกติกาการประกวดทั้งหมดให้ครบถ้วน
4. คลิกที่ "ส่งภาพเข้าประกวด" เพื่อเข้าสู่ลิงค์ส่งภาพ google form 

 

วิธีการโหวตภาพ

1 email เข้าโหวตได้ 1 ครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจะสามารถโหวตได้อย่างน้อย 1 ภาพ และโหวตได้สูงสุดไม่เกิน 5 ภาพ

ติดต่อเรา

โทรศัพท์ 02 577 9999 ต่อ 1472 หรือ 1474

nsmphotocontest@nsm.or.th

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
39 หมู่ 3 ถ. เลียบคลองห้า ต.คลองห้า อ.คลองหลวง
จ.ปทุมธานี 12120